กติกาบาคาร่า เป็นเกมไพ่ที่มีกติกา และ หลักการเดิมพันที่ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก

กติกาบาคาร่า เป็นเกมไพ่ที่มีกติกา และ หลักการเดิมพันที่ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก สำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มต้น และ อยากทำความเข้าใจกับบาคาร่า บาคาร่าออนไลน์เป็นเกมที่ได้รับความนิยมเนื่องจากเรียนรู้ง่าย และ เป็นวิธีที่ดีมากสำหรับคนที่ต้องการความสนุกสนาน การเล่นบาคาร่าออนไลน์นำเสนอฟีเจอร์หรือคุณสมบัติที่หลากหลาย ซึ่งทำให้มันเป็นเกมที่น่าสนใจสำหรับผู้เล่น เช่น ความสามารถในการเล่นกับผู้เล่นคนอื่น ๆ จากทั่วทุกมุมโลกสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเล่นอย่างรวดเร็ว บาคาร่าออนไลน์ เสนอทางเลือกในการเล่นที่รวดเร็ว และ ซับซ้อนน้อยกว่าบาคาร่าแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ บาคาร่าออนไลน์ยังน่าดึงดูดเพราะให้โอกาสผู้เล่นที่จะได้เงินก้อนโต ด้วยความเป็นไปได้ของแจ็คพอตขนาดใหญ่ การเล่นบาคาร่าออนไลน์อาจเป็นวิธีที่น่าตื่นเต้นวิธีหนึ่งในการทำกำไรได้ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถเล่นบาคาร่าออนไลน์ได้ฟรีอีกด้วย

ซึ่งเป็นวิธีที่ดีมากวิธีหนึ่งสำหรับผู้เริ่มต้นในการเรียนรู้เกมโดยไม่ต้องเสียเงิน คาสิโนจำนวนมากจะให้โบนัสการสมัครลงทะเบียนเมื่อคุณสร้างบัญชีครั้งแรก เช่นเดียวกับโบนัสเงินฝากครั้งแรกเมื่อคุณฝากเงินครั้งแรก นี่เป็นโอกาสให้คุณเล่นเกมใด ๆ ได้ฟรีเพื่อดูว่าคุณชอบเกมนั้นหรือไม่ ด้วยความนิยมของบาคาร่าออนไลน์ คาสิโนหลายแห่งเสนอโบนัส และ โปรโมชันเพื่อกระตุ้นให้ผู้เล่นทดลองเล่นเกม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นบาคาร่า การเล่นบาคาร่าออนไลน์เป็นวิธีที่ดีมากเพื่อความสนุกสนาน และ เพิ่มโอกาสในการชนะรางวัลนอกจากที่เราจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าบาคาร่าคืออะไร บางคนอาจจะสงสัยว่า กติกาเล่นบาคาร่า ในบางเดิมพันใช้แบบนึง พอไปอีกโต๊ะเดิมพันทำไมกติกาถึงไม่เหมือนกันในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจไปพร้อมกันว่ากติกาบาคาร่าแท้จริงแล้วมีกฎ และ กติกาที่ถูกต้องอย่างไรบ้าง

 

กติกาการเล่นบาคาร่าออนไลน์

โดยกติกาการเล่นบาคาร่าออนไลน์ คือ คุณจะเป็นผู้ลงเดิมพันว่าฝ่ายไหนจะชนะ ในเกมการแข่งขันระหว่าง ฝ่ายเจ้ามือ (Banker) และ ฝ่ายผู้เล่น (Player) ด้วยการนับคะแนนรวมหน้าไพ่ที่คล้ายกับการเล่นไพ่ป๊อก ที่จะได้รับไพ่มาฝ่ายละ 2 ใบ หรือจั่วเพิ่มใบที่ 3 ในการรวมคะแนน คุณเลือกเดิมพันที่ฝ่ายไหน แล้วฝ่ายนั้นทำคะแนนรวมได้มากกว่า ก็จะได้รับเงินรางวัลกลับมาตามอัตราการจ่ายซึ่งบาคาร่าออนไลน์โดยทั่วไปจะมีอัตราการจ่าย ที่หักค่าคอมมิชชั่น 5% ดังนี้

  • เดิมพันฝ่ายเจ้ามือ (Banker) ในการเลือกเดิมพันฝ่ายเจ้ามือ จะมีการหักค่าคอมมิชชั่นเป็นจำนวน 5% หรือให้อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 : 0.95 เช่น เดิมพันไป 100 บาท จะได้กำไรกลับมา 95 บาท รวมทุนเป็น 195 บาท
  • เดิมพันเสมอ (Tie) จะมีอัตรการจ่ายอยู่ที่ 1 : 8 หรือคิดเป็น 8 เท่าของจำนวนเงินที่ลงเดิมพัน ซึ่งจะมีโอกาสเกิดแต้มไพ่เสมอน้อยมาก 
  • เดิมพันฝ่ายผู้เล่น (Player) ในการเลือกเดิมพันฝ่ายผู้เล่น จะไม่มีการหักค่าคอมมิชชั่น ลงเท่าไหนได้กำไรเท่านั้น ในอัตราการจ่าย 1 : 1 เช่น เดิมพัน 100 บาท ได้กำไร 100 บาท รวมทุนเป็น 200 บาท

กฏกติกาบาคาร่า และ กติกาการจั่วไพ่ใบที่ 3

กฏกติกาบาคาร่า

  1. แบบหัก 5% : วิธีเล่นบาคาร่า แบบหัก 5% นี้ ถ้าผู้เล่นเลือกเดิมพันฝั่ง Banker แล้วผลออกมาชนะ เงินรางวัลที่ได้จะถูกหักค่า commission 5% ยกตัวอย่างเช่น วางเดิมพันฝั่ง Banker 100 บาท และ ชนะ จะได้เงินรางวัลแค่ 95 บาท แต่ถ้าแทงฝั่ง Player 100 บาท และ Player ชนะ จะได้ 100 บาทเต็ม
  2. แบบไม่มีค่า commission : วิธีเล่นบาคาร่า แบบไม่มีค่า ommission นี้ ถ้าผู้เล่นเลือกเดิมพันฝั่ง Banker แล้ว Banker ชนะที่ 6 แต้ม จะได้เงินรางวัลแค่ครึ่งเดียว (50%) แต่ถ้าชนะด้วยเเต้มอื่นจะได้เงินรางวัลเต็ม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าวางเดิมพันฝั่ง Banker 100 บาท แล้วผลที่ออกคือ Banker 6 แต้ม Player 2 แต้ม จะเห็นว่า Banker ชนะที่ 6 แต้ม ผู้เล่นจะได้เงินรางวัล 50 บาท แต่ถ้าผลที่ออกเป็น Banker ได้ 7 แต้ม Player ได้ 4 แต้ม ผู้เล่นจะได้เงินรางวัล 100 บาท

กติกาการจั่วไพ่ใบที่ 3

เนื่องจาก วิธีเล่นบาคาร่า จะทำการแจกไพ่ให้กับฝั่ง Player ก่อน ดังนั้นในกติกาการจั่วไพ่ใบที่ 3 จึงต้องพิจารณาที่แต้มรวมไพ่สองใบแรกของฝั่ง Player ก่อน ว่ามีแต้มเป็นเท่าไหร่ แล้วจึงพิจารณาดูว่า จะอยู่ หรือจั่วไพ่เพิ่ม ตามกฏของการจั่วไพ่ และ หากว่าฝั่ง Player มีการจั่วไพ่ใบที่ 3 ก็ต้องดูเพิ่มว่าจั่วได้ไพ่อะไร หลังจากนั้นจึงค่อยไปพิจารณาต่อว่าฝั่ง Banker จะต้องจั่วไพ่เพิ่มหรือไม่ โดยรายละเอียดของกฏกติการการจั่วไพ่ใบที่ 3 มีดังนี้

ข้อสังเกต

  1. ถ้าแต้มรวมไพ่สองใบแรกของฝั่ง Player เป็น 0 – 5 จะต้องจั่วไพ่ใบที่สามเพิ่มเสมอ แต่ถ้าแต้มรวมไพ่สองใบแรกได้แต้มตั้งแต่ 6 แต้มขึ้นไป จะอยู่ ไม่มีการจั่วไพ่ใบที่สามเพิ่ม
  2. ถึงแม้ว่าฝั่ง Banker จะมีแต้มรวมไพ่สองใบแรกเพียง 3 แต้ม แต่ถ้าฝั่ง Player จั่วไพ่ใบที่สามได้ 8 ไม่ว่าผลรวมของไพ่สามใบของฝั่ง Player จะเป็นเท่าไหร่ก็ตาม ฝั่ง Banker จะไม่มีการจั่วไพ่ใบที่สามเพิ่ม
  3. ถึงแม้ว่าฝั่ง Banker จะมีแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเป็น 6 แต้ม แต่ถ้าฝั่ง Player จั่วไพ่ใบที่สามได้ 6 หรือ 7 ไม่ว่าแต้มรวมของไพ่สามใบของฝั่ง Player จะเป็นเท่าไหร่ ฝั่ง Banker จะต้องจั่วไพ่ใบที่สามเพิ่มเสมอ
  4. กรณีการจั่วไพ่ใบที่สามของฝั่ง Banker จะค่อนข้างซับซ้อนมากกว่าของฝั่ง Player ตารางต่อไปนี้จะช่วยให้สามารถจดจำกฏการจั่วไพ่ของฝั่ง Banker ได้มากขึ้น
 

กติกาบาคาร่า 6 แต้มคืออะไร?

เมื่อได้รู้จักกับกติกาของการเล่นบาคาร่าออนไลน์แบบปกติกันไปแล้ว ต่อมาเรามาทำความรู้จักกับกติกาบาคาร่า 6 แต้มกันบ้าง

กติกาบาคาร่า 6 แต้ม 

กติกาบาคาร่า 6 แต้ม เป็นการคิดอัตราการจ่ายบาคาร่า ที่ไม่มีการหักค่าคอมมิชชั่น 5% จากการลงเดิมพันในฝ่ายเจ้ามือ นั่นหมายความว่า ลงเดิมพันที่ฝ่ายเจ้ามือเท่าไหร่ ก็ได้กำไรเท่านั้น หรืออัตราการจ่ายแบบ 1:1 เหมือนกับเดิมพันในฝ่ายผู้เล่นเลยแต่จะมีกฎพิเศษอยู่ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ฝ่ายเจ้ามือ เปิดไพ่ออกมาแล้วได้แต้มรวมเป็น 6 และเอาชนะฝ่ายผู้เล่นได้ เช่น ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 6 และฝ่ายผู้เล่นได้แต้ม 4 เมื่อนั้นอัตราการจ่ายจะกลายเป็น 1 : 0.5 หรือจ่ายเพียงครึ่งเดียวทันที

ตัวอย่างการเดิมพัน ลงเดิมพันที่ฝ่ายเจ้ามือ 100 บาท แล้วฝ่ายเจ้ามือเปิดไพ่ได้แต้ม 6 ซึ่งเอาชนะฝ่ายผู้เล่นได้ จะได้กำไรกลับมาครึ่งหนึ่ง คือ 50 บาท รวมทุนเป็น 150 บาท เท่านั้น

กติกาบาคาร่า 6 แต้ม นับแต้มยังไง?

ในการนับแต้มของกติกาบาคาร่า 6 แต้ม จะใช้การนับแต้มรวมหน้าไพ่ ที่โฟกัสเฉพาะในฝั่งเจ้ามือ (Banker) เท่านั้น เพื่อปรับอัตราการจ่ายเงินให้เป็น 1 : 0.5 แต่สำหรับในช่องเดิมพันอื่นๆ ยังใช้อัตราการจ่ายแบบเดิมโดยในการนับแต้มของเกมไพ่บาคาร่า จะใช้การนับแต้มหน้าไพ่เหมือนไพ่ป๊อก นั่นคือ การรวมแต้มของไพ่ 2 หรือ จั่วเพิ่มใบที่ 3 เพื่อให้ได้แต้มเป็น 8 หรือ 9 หรือมากกว่าอีกฝ่าย

การนับแต้มจากหน้าไพ่ มีดังนี้

  • ไพ่ A = 1 แต้ม
  • ไพ่ J, Q, K, 10 = 0 แต้ม
  • ไพ่ ตัวเลข มีค่าเท่ากับหน้าไพ่

รวมกติกาบาคาร่า เข้าใจได้ไม่ยาก

เข้าใจกติกาการแจกไพ่

เริ่มจากการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการแจกไพ่ใน 1 ขอนใช้ไพ่ 4 – 8 สำรับ (ขึ้นอยู่กับคาสิโน) โดยไพ่ทุกใบจะถูกแจกไปในแต่ละตำแหน่งรอบละ 6 ใบ จนกระทั่งถึงแผ่นปิดเกม (แผ่นกระดาษหรือพลาสติกสีแตกต่างกันไปตามแต่ละคาสิโน) เพื่อป้องกันการมองเห็นจากด้านข้างของขอนไพ่  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงให้ทราบว่านี่คือเกมสุดท้ายของขอนไพ่สำรับนี้คาสิโนแต่ละแห่งจะมีวิธีการแจกไพ่ที่แตกต่างกันออกไป แต่เมื่อกล่าวโดยทั่วไปแล้วเราจะพบวิธีการแจกไพ่บาคาร่าด้วยกันหลักๆ 2 รูปแบบ

1.1 แจก และ เปิดไพ่ทีละใบจนครบ 

เมื่อเริ่มต้นเกม ดีลเลอร์จะดึงไพ่ออกจากขอนครั้งละ 1 ใบ ผ่านเซ็นเซอร์กล้อง เพื่อแสดงผลไพ่ทีละใบ

  • ใบที่ 1 วางในตำแหน่ง  เพลเยอร์ ช่องที่ 1
  • พอใบที่ 2 ให้วางในตำแหน่ง  แบงเกอร์ ช่องที่ 1
  • ใบที่ 3 ให้วางในตำแหน่ง  เพลเยอร์ ช่องที่ 2
  • ใบที่ 4 วางในตำแหน่ง  แบงเกอร์ ช่องที่ 2

เมื่อแจกไพ่ครบ 4 ใบ แล้วมีผลแพ้ชนะเกิดขึ้นเกมจะจบลงทันที แต่ถ้ายังไม่สามารถระบุผลแพ้ชนะได้ จะต้องมีการแจกไพ่ใบที่ 5 และ 6 ซึ่งจะถูกแจกตามสถานการณ์ของแต้มที่ปรากฏในเกมนั้นๆ ซึ่งจะกล่าวโดยละเอียดในหัวข้อ กฎ

การจั่วไพ่ และ กฎการจั่วไพ่ใบที่ 3

1.2 แจก และ วางไพ่ประจำจุดทั้ง 6 ใบก่อนทำการเปิด  

เมื่อเริ่มต้นเกมดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่แล้ววางในตำแหน่งจุดมาร์คทั้งหมด 6 จุด โดยไพ่ 4 ใบแรกจะวางอยู่ใน 

  • ฝั่งผู้เล่น 2 ใบ
  • ฝั่งเจ้ามือ 2 ใบ 
  • ไพ่สำหรับจั่ว 2 ใบ 

การแจกไพ่ในลักษณะนี้ผู้เดิมพันจะเห็นตัวเซ็นเซอร์อยู่บริเวณเหนือตำแหน่งที่วางไพ่ ดีลเลอร์จะทำการเปิดไพ่พร้อมกันทีละ 2 ใบเริ่มจากฝั่งเพลเยอร์ตามด้วยแบงเกอร์ ถ้ายังไม่สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้จะต้องมีการจั่วไพ่ใบที่ 5 และ ใบที่ 6 ซึ่งจะอยู่ในจุดมาร์คที่เตรียมไว้กรณีการแจกไพ่ 6 ใบพร้อมกันแบบนี้_ถ้าเกมจบด้วยไพ่เพียงแค่ 4 ใบส่วนไพ่ใบที่ 5 และ ใบที่ 6 ไม่ได้ถูกใช้งานในตาถัดไป ดีลเลอร์จะทำการดึงไพ่ 2 ใบนี้ไปวางในตำแหน่งของ ‘เพลเยอร์’  เพื่อใช้สำหรับการออกผลในรอบถัดไป

คาสิโนส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้

การดึงไพ่ออกมาวางประจำจุดทั้ง 6 ใบก่อนเปิดไพ่เป็นวิธียอดฮิตเพราะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เดิมพันได้ดีกว่า

เนื่องจากคาสิโน และ ดีลเลอร์จะมีโอกาสโกงได้ยากเพราะผู้เข้าร่วมเดิมพันทุกคนจะเห็นไพ่อยู่ประจำจุด ดังนั้นโอกาสที่จะมาเปลี่ยนไพ่หรือพลิกผลให้เป็นไปตามที่คาสิโนกำหนดเอาไว้ ‘แทบเป็นไปไม่ได้’แต่มีวิธีอื่นที่คาสิโนป้องกันการโกงบาคาร่า คาสิโนมีการดำเนินการป้องกันการโกงบาคาร่ามาเป็นเวลานาน บาคาร่าเป็นเกมยอดนิยมในคาสิโนซึ่งก็มีเหตุผลสมควรอยู่ มันเป็นเกมแห่งโอกาสที่เรียนรู้ง่าย และ เล่นสนุก แต่เนื่องจากมีเงินเดิมพันจำนวนมาก คาสิโนจึงต้องดำเนินการเพื่อป้องกันการโกง

ทางหนึ่งที่ป้องกันการโกงบาคาร่าก็คือ การใช้เครื่องสับไพ่อย่างต่อเนื่อง เครื่องนี้จะสับไพ่บาคาร่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถตามไพ่หรือใช้ระบบเพื่อระบุรูปแบบต่าง ๆ ได้ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าเกมมีความยุติธรรม และ ไม่มีใครสามารถมีข้อได้เปรียบที่ก่อให้เกิดความไม่ยุติธรรมได้ นอกจากนี้ คาสิโนยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยตรวจสอบโต๊ะบาคาร่าด้วย พวกเขาจะตรวจสอบเฝ้าระวังสัญญาณของการโกง และ หากสงสัยว่ามีคนโกง พวกเขาจะดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหานั้นพวกเขายังอาจตรวจจับได้เมื่อมีคนนับไพ่ด้วย ซึ่งก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการโกง อีกวิธีหนึ่งที่คาสิโนป้องกันการโกงบาคาร่าคือ การใช้ไพ่หลายสำรับ ซึ่งทำให้ผู้เล่นตามไพ่ได้ยากขึ้นว่าไพ่ใบไหนถูกใช้ไปแล้ว และ ใบไหนที่ยังคงเล่นอยู่ สิ่งนี้จะช่วยลดโอกาสที่ใครบางคนจะโกงบาคาร่าลงได้

กติกาการนับแต้มบาคาร่า

รายละเอียดสำคัญของการเล่น บาคาร่า นั่นคือวิธีการวัดผลแพ้ชนะ ตัดสินกันที่ผลรวมของแต้มไพ่ที่เปิดออกมาในแต่ละฝั่ง (ใช้ผลรวมไพ่ 4 ใบ หรือ 6 ใบ แล้วแต่สถานการณ์)

ระบบทำการรวมแต้มไพ่ทั้ง 2 ฝั่ง แล้วเปรียบเทียบแต้มโดยยึดเอาผลเฉพาะหลักหน่วย ดังนั้นรายละเอียดสำคัญคือการที่ผู้เล่นจะต้องเข้าใจวิธีการนับแต้มไพ่ ซึ่งไพ่แต่ละใบก็จะมีมูลค่าที่แตกต่างกันตามรายละเอียดดังนี้ 

  • ไพ่ A มีมูลค่าเท่ากับ 1
  • ไพ่เลข 2 ถึงเลข 9 มีมูลค่าตามจำนวนที่แสดงบนหน้าไพ่
  • ไพ่ 10 , J , Q , K มีค่า เท่ากับ 0

เข้าใจกติกาการเล่น

เมื่อเริ่มเกม ‘ดีลเลอร์’ จะทำการแจกไพ่ ตามกฎการแจกไพ่ของเกมบาคาร่าในแต่ละคาสิโนดังที่ได้กล่าวไปในหัวข้อข้างต้น ‘ผู้เดิมพัน’ ต้องทำการวางเดิมพันในตัวเลือกที่ต้องการ โดยวิธีการวางเดิมพันจะมีเงื่อนไขของเวลามาเป็นตัวกำหนดโดยทั่วไปจะมีระยะเวลาให้วางเดิมพันที่ประมาณ 15 – 40 วินาที บนหน้าจอจะปรากฏการนับถอยหลังตลอดระยะเวลาที่อนุญาตให้ทำการวางเดิมพัน เมื่อทำการวางเดิมพันเสร็จสิ้นระบบจะมีการแจ้งเตือนถึงการสิ้นสุดช่วงเวลาเดิมพัน จากนั้นดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่โดยหงายหน้าไพ่สองใบต่อหน้าผู้เดิมพันทุกคน โดยเริ่มจากการเปิดไพ่ในฝั่งเพลเยอร์ ตามด้วยแบงเกอร์ ฝั่งไหนที่มีแต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งวิธีการชนะจะให้ผลตอบแทนที่ไม่เท่ากัน

เคสที่ 1:ถ้าเพลเยอร์เป็นฝ่ายชนะ ฝ่ายเพลเยอร์จะได้รับผลตอบแทน 100 เปอร์เซ็นต์ของยอดเดิมพัน (1:1)
กรณีที่ 2: แต่ถ้าฝ่ายแบงเกอร์เป็นฝ่ายชนะ ฝ่ายแบงค์เกอร์จะได้รับผลตอบแทนคิดเป็น  95 เปอร์เซ็นต์ของยอดเดิมพันซึ่งเป็นผลลัพธ์ (1:0.95)
เคสที่ 3: แต่ถ้าหากผลออกมาเป็น ‘เสมอ’ เท่ากับการคืนเงินเดิมพันให้กับผู้เดิมพันทั้ง 2 ฝั่ง

หากผู้เล่นหรือเจ้ามือมีแต้มไพ่ 2 ใบแรกในทั้ง 2 ฝั่งเท่ากับ 8 แต้มหรือ 9 แต้ม จะเท่ากับผลชนะทันที แต่ถ้าทั้งสองฝั่งมีแต้มในมือรวมกันน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 ต้องมีการจั่วไพ่ใบที่ 3 เกิดขึ้นซึ่งรายละเอียดของการจั่วไพ่ใบที่ 3 จะมีกฏกติกาเฉพาะแยกออกไปดังรายละเอียดที่จะกล่าวในหัวข้อ กฎในการจั่วไพ่ และ กฎการจั่วไพ่ใบที่ 3

บทสรุปของกติกาบาคาร่า

บาคาร่า เป็นเกมไพ่ที่มีความนิยมมากในคาสิโนออนไลน์ กติกาการเล่นง่ายทำให้มือใหม่สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้ กติกาของบาคาร่ายังเป็นกติกาพื้นฐานที่สามารถใช้ได้กับทุก คาสิโนออนไลน์ คุณสามารถทดลองเล่นเกมบาคาร่าฟรีเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการวางเดิมพันจริงได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก่าก็สามารถเข้าร่วมเกมบาคาร่าได้อย่างง่ายดาย และ สนุกสนาน